เรื่องสวนน่ารู้

 เรื่องสวนน่ารู้

สวนประดิษฐ์ (Formal styles)

การจัดสวนประดิษฐ์ มักจะนิยมจัดในพื้นที่ราบเรียบได้ระดับ ไม่นิยมจัดในพื้นที่สูงๆต่ำๆ การจัดวางต้นไม้หรือวัตถุต่างๆจะตัดแต่งเป็นรูปทรงกลม หรือรูปทรงเหลี่ยม แปลงไม้ดอก ไม้ใบจะปลูกสลับลวดลาย และตัดแต่งอย่างเรียบร้อยเป็นระเบียบมีสีสันฉูดฉาด พื้นทางเดินบริเวณสวนมักจะเป็นเส้นตรง หรืออาจมีโค้งบ้างแบบได้ระดับ สวนประดิษฐ์จึงมักจะจัดอยู่บริเวณหน้าอาคารหรือตึกใหญ่ๆอย่างประณีต

สวนธรรมชาติ (informal styles)

การจัดสวนแบบธรรมชาติจะจัดให้เป็นเนินลดหลั่นกัน มีพื้นที่สูงๆต่ำๆสลับกับที่ราบเรียบให้เหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ การจัดวางต้นไม้และวัตถุไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหรือขนาดเท่ากัน สระน้ำ ลำธารจะมีรูปร่างอิสระเหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม ไม้น้ำและพืชคุมดินมักมีสัสันที่ไม่ฉูดฉาด จะเน้นสีเขียวเป็นส่วนใหญ่ หรือไม้ดอกจะออกดอกเพิ่มสีสันในสวนบ้างก็ตามฤดูกาลเท่านั้น

สวนจินตนาการ (Imaginative Style)

สวนในลักษณะนี้จะจัดกันน้อย และมักจะจัดเฉพาะในโอกาสพิเศษ หรือเพื่อการแสดงนิยมนำสิ่งก่อสร้างบางส่วนทางสถาปัตยกรรมในอดีตมาเป็นส่วนประกอบในสวน เช่น เอาสไตล์ของเสากรีกโรมัน กำแพงเมือง ซุ้มประตู หรือบางส่วน บางมุมของตัวอาคารมาใช้ต้นไม้ที่นิยมตัดแต่งรูปเป็นลักษณะพิเศษตามจินตนาการ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศและเนื้อหาที่จัดแสดง บางลักษณะจะตัดแต่งต้นไม้เป็นเรื่องราวของคน สัตว์และสิ่งก่อสร้างซึ่งนับได้ว่า เป็นสวนจินตนาการ เช่นกันบุคคลบางคนที่ชอบคิดชอบฝันสร้างสรรค์อะไรที่เป็นพิเศษออกไป ก็อาจจะจัดให้มีสวนลักษณะนี้ไว้ดูเล่นในบ้านก็ได้

สวนนามธรรม (Abstract Style)

หรืออาจจะเรียกว่าสวน Free Style ก็ได้ เพราะสวนลักษณะนี้เริ่มนิยมจัดในยุคหลัง ๆ เป็นการจัดให้ฉีกแนวจาก ความซ้ำซากจำเจ เหมือนการวาดภาพงานศิลปะลงไปบนแผ่นกระดาษหรือผืนผ้าใบ แต่แทนที่จะแต่งแต้มสีสันเหมือนอย่างเขียนงานศิลปะก็ใช้สีสันของต้นไม้แต่งแต้มลงไปแทน การนำต้นไม้มาปลูกหรือจัดวางให้มีจังหวะเส้นสายมีช่องว่าง หรือรูปฟอร์มตามทฤษฎี หรือลักษณะงานศิลปะสมัยใหม่ที่นิยมกัน เหมือนการสร้างงานจิตรกรรมบนผืนผ้าเน้นการจัดเพื่อถ่ายทอดความรู้สึก แรงบันดาลใจในงานศิลปะของศิลปินผู้สร้างกับประโยชน์ใช้สอย จึงอาจจะแตกต่างไปจากสวนสไตล์อื่นเช่น Formal style หรือ lnformal style โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนลักษณะ lnformal style จะคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย และจุดประสงค์ก่อน จะนำศิลปะมาเสริมแต่ง สร้างสรรค์ ให้สวยงามยิ่งขึ้น

สไตล์สวนที่นิยมและรู้จักกันโดยทั่วไป มีหลักๆอยู่ 8 แบบ

สวนอังกฤษ

มีเอกลักษณ์ที่งานฮาร์ดสเคปตกแต่งสวนจะมีความโค้งมนในสไตล์วิกตอเรีย เช่นเฟอร์นิเจอร์สนาม แท่นน้ำพุ กระถางเอิร์น และปลูกพรรณไม้รูปทรงทอดเลื้อย แซมด้วยไม้ดอกตามฤดูกาล

สวนป่าธรรมชาติ

เป็นการจัดสวนจำลองธรรมชาติของพรรณไม้เขตร้อนชื้น ประกอบด้วยโครงสร้างต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้ม ไม้พุ่ม และคลุมดิน โดยส่วนใหญ่คือเฟิน บีโกเนีย มอสส์ และแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงสร้างความชุ่มชื่นให้สวน

สวนแนวทรอปิคัลโมเดิร์น

มีโครงสร้างของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ดูเรียบง่าย เน้นการใช้สอยพื้นที่ โดยลดทอนรายละเอียดของต้นไม้เหลือแค่ที่จำเป็น มีกลิ่นอายของพรรณไม้เขตร้อนคอยช่วยลดทอนความแข็งกระด้าง

สวนบาหลี

สวนสไตล์บาหลีนั้น เป็นสวนที่อุดมไปด้วยพืชพรรณเมืองร้อน เช่น ลั่นทม,ไผ่,ไม้น้ำต่างๆ และด้วยวิถีชีวิตความเชื่อของชาวบาหลี ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับศาสนา จึงทำให้นิยมใช้รูปปั้นเทวดา สัตว์ ต่างๆมาตกแต่งบริเวณสวน ทำให้สวนบาหลีมักจะมีกลิ่นอายชองความศักดิ์สิทธิ์ ดูลึกลับ น่าค้นหา และที่สำคัญสวนสไตล์บาหลีนั้นเป็นสวนที่ร่มรื่นมากๆเลย

สวนฝรั่งเศส

สวนสไตล์ฝรั่งเศส เป็นสวนที่ดูสะอาดตา เป็นระเบียบ และมักจะใช้รูปทรงเลขาคณิตในการออกแบบตกแต่งสวน มีทัศนียภาพโดยรวมสวยงาม ทุกอย่างในสวนจะต้องมีลักษณะที่เป็นไปตามแบบแผน นอกจากนี้สวนสไตล์ฝรั่งเศสยังใช้รูปปั้นจากเรื่องราวเทพนิยายต่างๆ ตกแต่งเพิ่มลูกเล่นเข้าไปในสวน จึงทำให้สวนสไตล์ฝรั่งเศสส่วนใหญ่ สวยราวกับอยู่ในเทพนิยาย

สวนเซนญี่ปุ่น

แบบสวนเซนญี่ปุ่น เป็นสวนที่ได้รับอิทธิพลจากนิกายเซน ในพุทธศาสนา สวนเซนญี่ปุ่นมีลักษณะแห้ง มักจะปูพื้นด้วยกรวดหรือทราย เน้นความเรียบง่าย ตามวิถีของเซน จึงทำให้รู้สึก สงบ ดูเรียบง่าย แต่ก็มีความสวยงามอย่างเป็นเอกลักษณ์

สวนโมร็อคโค

แบบสวนสไตล์โมร็อคโค เป็นสวนที่มีสีสัน เพราะมักมีการเล่นสีกับกำแพง มีทางเข้าที่มีลักษณะโค้งมน เอกลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นโมร็อคโคอีกอย่างก็คือ การใช้กระเบื้องประดับตกแต่งในสวน ไม่ว่าจะเป็นพื้น กำแพง หรือแม้แต่แท่นน้ำพุ ด้วยสีสันที่สดใส จึงทำให้สวนสไตล์โมร็อคโคไม่น่าเบื่อ และดูมีชีวิตชีวาด้วย

สวนพืชแห้งแล้ง

ยุคนี้เป็นยุคที่ต้นกระบอกเพชรกลับมาเป็นที่นิยมของเหล่าวัยรุ่นอีกครั้ง หลายๆคนอาจสงสัยว่าต้นกระบอกเพชรมีแต่ขนาดเล็กๆ และจำเป็นต้องปลูกแต่ในกระถ่างเท่านั้นหรือเปล่า คำตอบคือไม่จำเป็น สำหรับต้นกระบองเพชรที่มีขนาดใหญ่ สามารถเอาลงดินได้ตามปกติทั่วไปเลย แถมยังเป็นการจัดสวนที่ดูไม่รกหู รกตา ลักษณะของต้นกระบองเพชรเองก็มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว การดูแลไม่ยากลำบาก แถมยังทนความร้อนได้ดีอีกด้วย เหมาะกับอากาศอย่างประเทศไทยจริงๆ